“ปราสาทนาคพัน กับตำนานม้าวิเศษ”
“ปราสาทนาคพัน กับตำนานม้าวิเศษ ”
หนึ่งในสิ่งจำแลงจากสถานที่ในจินตนาการแห่งความเชื่อทางศาสนา
และตำนานที่ถูกเล่าขาน สถานที่ซึ่งอุดมด้วยสีสันจากศิลา พืชพรรณแห่งการเยียวยา
และสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่หลั่งไหลทั้งสี่ทิศ ที่แห่งนี้คือหนึ่งในความงามของศิลปะเขมรในยุคโบราณ
“ปราสาทนาคพัน”
(ที่มารูปภาพ : http://www.6gms.com/tour-cambodia.php)
ปราสาทนาคพัน
เป็นปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่แห่งที่ 4 ทางเหนือของพระนครหลวง เพื่อใช้เป็นแหล่งรักษาโรค ชำระบาป และกระทำพิธีราชาภิเษก
มีความกว้าง 984 หลา และยาว 3,827 หลา นาคพันนี้ประกอบด้วยสระกว้าง
ตรงกลางสระยอดปราสาทตั้งตระหง่านขึ้นมาจากฐานทรงกลมคือนาคพัน โดยเชื่อว่านาคพันนี้ถูกสร้างขึ้นแบบพุทธผสมผสานกับพราหมณ์
ที่มาของชื่อปราสาทนาคพันนั้น มาจากการที่มีนาคศิลา
2 ตนขดเป็นวงล้อมรอบฐานปราสาท ซึ่งสถาปัตยกรรมของนาคพันนี้ถูกจำลองให้เป็น
“สระอนวตัปตา” (Anavatapta) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สระอโนดาต”
ที่เป็นสระน้ำแห่งความบริสุทธิ์ บ้างก็กล่าวว่าเป็นสระศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาหิมาลัย
บ้างก็กล่าวว่าเป็นหลังคาของโลกในนิยาย เนื่องจากสระนี้เป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำ 4
สายที่ไหลไปแต่ละทิศ เสมือนกับแม่น้ำ 4 สายของโลกนั่นเอง
(ที่มารูปภาพ : https://manunotti.wordpress.com/2014/05/14/นครวัด-เดย์ทู-ปราสาท-ปรา/ )
ภายในกลางสระที่ล้อมรอบปราสาทตรงทางขึ้นไปปรางค์
ได้ค้นพบร่องรอยประติมากรรมลอยตัว 4 รูป ได้แก่ ทางทิศใต้พบเศษศิลาซึ่งไม่แน่ชัด ทางทิศตะวันตกเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์
ทางทิศเหนือเป็นรูปศิวลึงค์ และทางทิศตะวันออกเป็น “ม้าพลห หรือ พลาหะ” (Balaha)
ม้าวิเศษนี้เป็นรูปจำแลงภาคหนึ่งของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เมื่อครั้งพระองค์ทรงช่วยพวกเรือแตกจากนางยักษิณี
เมื่อเห็นรูปม้าพลาหะแหวกว่ายไปยังตัวปราสาท ทำให้ผู้คนพลันเกิดความเชื่อที่ว่า
ม้าวิเศษตัวนี้ได้เหาะพาผู้คนไปยังสรวงสวรรค์
ปราสาทนาคพันกลางสระน้ำโบราณนี้ยังเต็มไปด้วยความเชื่อทางศาสนาที่ได้รับอิทธิพลต่อมา
และผสมผสานขึ้นจนเกิดเป็นโบราณสถานที่สวยงามพร้อมด้วยตำนานความเชื่อที่น่าอัศจรรย์ใจ
เปรียบได้ดั่งคำกล่าวที่ว่า “เป็นกระจกเงาแห่งโชคลาภ” ทั้งในอดีตและปัจจุบันที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยสมุนไพรของการเยียวยารักษาโรค
ซึ่งเป็นโชคลาภหนึ่งของชีวิตก็มิปาน
ที่มา
ญัน เมอร์ดาล. (2545). อังกอร์ ความเรียงว่าด้วยศิลปะและลัทธิจักรวรรดินิยม. แปลโดย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. กรุงเทพฯ : เรือนปัญญา.
มาดแลน จิโต. (2552). ประวัติเมืองพระนครของขอม. แปลโดย สุภัทรดิศ ดิศกุล, ม.จ.. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : มติชน.
ล้อม เพ็งแก้ว
และนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว. (2555). เที่ยวปราสาทหิน
ยลถิ่นกัมพูชา. กรุงเทพฯ : สยามปริทัศน์.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น